เก็บเงินเดือนละ 3000 ที่ไหนให้คุ้มค่า ชนะเงินเฟ้อ เกิดประโยชน์สูงสุด

เก็บเงินเดือนละ 3000 ที่ไหนให้คุ้มค่า ชนะเงินเฟ้อ เกิดประโยชน์สูงสุด

เก็บเงินเดือนละ 3000 บาทอาจดูเล็กน้อย แต่ถ้าเลือกลงทุนอย่างฉลาด เงินก้อนนี้ก็เติบโตได้ ชนะเงินเฟ้อและได้ผลตอบแทนคุ้มค่า เซฟโซน ชวนเซฟเงิน มีไอเดียมาฝากว่าถ้าจะเก็บเงิน 3 พัน ควรเก็บเงินที่ไหนดีที่สุด

เก็บเงินเดือนละ 3000 ที่ไหนดี

1. ออมทอง: ปลอดภัยและเติบโตในระยะยาว

การออมทองเป็นทางเลือกที่ปลอดภัย ทองคำมักเติบโตตามเงินเฟ้อ สามารถเริ่มต้นง่ายผ่านแอปฯ ที่ให้บริการออมทองเป็นรายเดือน

  • ผลตอบแทน: ประมาณ 3-5% ต่อปี
  • ข้อดี: ปลอดภัยในระยะยาว
  • ข้อเสีย: มีค่าธรรมเนียมการซื้อขาย ผลตอบแทนไม่สม่ำเสมอ

2. สลากออมสิน/สลาก ธ.ก.ส.: ออมเงินพร้อมลุ้นโชค

วิธีเก็บเงินเดือนละ 3 พันบาท ฉบับคนชอบลุ้น สลากออมสินให้ผลตอบแทนคล้ายดอกเบี้ยเงินฝาก แต่พิเศษกว่าตรงที่สามารถลุ้นรางวัลใหญ่ทุกเดือน

  • ผลตอบแทน: ดอกเบี้ยประมาณ 1-2% ต่อปี (หากไม่ถูกรางวัล)
  • ข้อดี: ผลตอบแทนคงที่และลุ้นโชคเพิ่ม
  • ข้อเสีย: ดอกเบี้ยไม่สูง ควรถือจนครบกำหนด

3. ประกันออมทรัพย์: ออมเงินพร้อมคุ้มครอง

ประกันออมทรัพย์ช่วยให้คุณออมเงินและได้รับความคุ้มครอง ลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน

  • ผลตอบแทน: ประมาณ 1.5-3% ต่อปี
  • ข้อดี: มีความคุ้มครองชีวิตและลดหย่อนภาษี
  • ข้อเสีย: ผลตอบแทนต่ำเมื่อเทียบกับการลงทุนอื่น ๆ ต้องถือจนครบสัญญา

4. ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์: เพิ่มความมั่นคงในอนาคต

เก็บเงินเดือนละ 3000 บาทก็เริ่มในประกันชีวิตได้ ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ช่วยสร้างความมั่นคงพร้อมคุ้มครองชีวิต และยังให้เงินคืนตามระยะที่กำหนด

  • ผลตอบแทน: ประมาณ 1.5-3% ต่อปี
  • ข้อดี: ได้รับผลตอบแทนต่อเนื่องและมีความคุ้มครองชีวิต
  • ข้อเสีย: ขาดสภาพคล่อง ถอนก่อนครบสัญญาอาจเสียสิทธิ์ผลประโยชน์

เก็บเงินเดือนละ 3 พัน ที่ไหนคุ้มสุด

5. การลงทุนในกองทุนรวม: เพิ่มโอกาสชนะเงินเฟ้อ

เริ่มได้ตั้งแต่กองทุนละ 500 บาท (บางกองทุน 1 บาทก็มีนะ) การลงทุนในกองทุนรวมเช่น กองทุนหุ้นหรือกองทุนตราสารหนี้ ช่วยเพิ่มโอกาสในการเอาชนะเงินเฟ้อได้ในระยะยาว

  • ผลตอบแทน: ประมาณ 5-7% ต่อปี
  • ข้อดี: ผลตอบแทนสูง มีผู้จัดการกองทุนดูแล
  • ข้อเสีย: เสี่ยงจากความผันผวน ควรศึกษาให้ดีก่อนลงทุน

6. ลงทุนในหุ้นผ่าน Dime: เริ่มง่ายกับหุ้นสหรัฐอเมริกา

Dime เป็นแพลตฟอร์มที่ให้คุณเริ่มลงทุนในหุ้นและ ETF ต่างประเทศได้ด้วยเงินน้อย เริ่มต้นได้ตั้งแต่หลักร้อย แต่ควรเลือกลงทุนในหุ้นที่มีผลตอบแทนสูงในระยะยาว

  • ผลตอบแทน: หุ้นระยะยาวให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 7-10% ต่อปี
  • ข้อดี: ผลตอบแทนสูงในระยะยาว สามารถซื้อหุ้นชิ้นส่วนเล็ก ๆ ได้
  • ข้อเสีย: ความเสี่ยงสูงจากความผันผวน ควรมีความรู้พื้นฐาน

7. ลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี: โอกาสสูง แต่เสี่ยงสูงเช่นกัน

การลงทุนในคริปโตอาจให้ผลตอบแทนสูง แต่เนื่องจากความผันผวนสูงมาก แนะนำเริ่มต้นจากจำนวนเล็กน้อยที่ไม่กระทบกับการเงินหลัก

  • ผลตอบแทน: ความผันผวนสูง อาจได้ตั้งแต่ -10% ถึง 100% ขึ้นไปในระยะสั้น
  • ข้อดี: โอกาสให้ผลตอบแทนสูง
  • ข้อเสีย: มีความเสี่ยงสูงจากการเปลี่ยนแปลงราคา ควรศึกษาและเริ่มจากงบเล็ก

วิธีเลือกสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนคุ้มที่สุด

ถ้าเริ่ม เก็บเดือนละ 3000 บาท การลงทุนที่เสี่ยงต่ำอย่างสลากออมสิน ประกันสะสมทรัพย์ หรือลงทุนในกองทุนรวมหุ้น ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ส่วนใครที่ยอมรับความเสี่ยงสูงได้ อาจลองเพิ่มการลงทุนในหุ้นผ่าน Dime หรือออมทอง เพื่อสร้างผลตอบแทนที่มีโอกาสชนะเงินเฟ้อได้ในระยะยาว

ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง จะลงทุนอะไรก็แล้วแต่ แม้เงินก้อนเล็กหรือก้อนใหญ่ ควรศึกษาการลงทุนในสินทรัพย์นั้นก่อน ถ้าเลือกเก็บและลงทุนให้ถูกวิธี เงินนี้ก็จะเติบโตมั่นคงได้อย่างแน่นอน

ถ้าพร้อมแล้วเริ่มเลย! มาเปลี่ยน 3 พัน ให้กลายเป็นหลักหมื่น หลักแสน หลักล้าน กันนะคะ